ทำความรู้จักกับที่มาของ Netflix
Netflix ไม่เพียงแค่เป็นผู้นำทางด้านการสตรีมมิ่ง แต่ยังเป็นผู้ผลิตซีรีส์และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลในงานที่มีชื่อเสียงอย่าง academy awards โดยมีคอนเทนต์เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ชมในทุกประเทศ เกี่ยวกับวัฒนธรรมและภาษาต่าง ๆ มีการปรับเนื้อหาให้ตรงกับความชอบของแต่ละผู้ใช้งาน ทำให้ประสบความสำเร็จในการรักษาลูกค้าและเพิ่มแนวโน้มในการรับชม
ในปี 2013 Netflix ได้เริ่มสร้างซีรีส์ของตนเองที่ชื่อว่า house of cards หลังจากนั้น ก็เริ่มลงทุนมากขึ้นในการสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลาย และผลิตเนื้อหาออริจินัล ซึ่งไม่เพียงแค่มีเรื่องราวที่น่าสนใจแต่ยังสามารถควบคุมคุณภาพของคอนเทนต์ได้ ทำให้ได้รับการยอมรับจากวงการภาพยนตร์ ในการใช้งานแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของ Netflix และมีประสิทธิภาพมาก ที่สำคัญ มีการการป้องกันความปลอดภัยในเรื่องของข้อมูลผู้ใช้และการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์
คุณภาพของภาพและเสียงที่สูง รองรับ 4k, hdr, ทีวีที่มีความละเอียดสูงและอุปกรณ์การแสดงผลแบบล่าสุด สามารถปรับคุณภาพการสตรีมมิ่งตามความเร็วของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เพื่อแนะนำภาพยนตร์และซีรีส์ที่อาจตรงกับความชอบของผู้รับชมแต่ละคน นอกจากนี้ ไม่ว่าจะรับชมบนมือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือทีวี ประสบการณ์การใช้งานได้ถูกปรับให้เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม
หลายบริษัทได้เข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ ทั้งในเรื่องของเนื้อหาและราคา เช่น disney+, apple tv+, amazon prime บริษัทผลิตภาพยนตร์และโปรดิวเซอร์ใหญ่ ๆ บางส่วนเลือกเปิดบริการสตรีมมิ่งของตนเอง ทำให้ Netflix สูญเสียสิทธิในการสตรีมมิ่งบางเรื่อง การเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ อาจไม่ได้ง่าย โดยเฉพาะในประเทศที่มีวัฒนธรรม และกฎระเบียบที่แตกต่างจากตลาดหลัก แต่ท้ายที่สุด Netflix ยังคงมีบทบาทสำคัญและได้รับความนิยม
ความสำเร็จของ Netflix
Netflix ก่อตั้งในปี 1997 แจ้งเกิดในฐานะบริษัทเช่าแผ่นดีวีดีภาพยนตร์ทางไปรษณีย์ ตามประวัติบันทึกว่า รีด แฮชติงส์ ผู้ก่อตั้ง Netflix ได้เช่าภาพยนตร์เรื่อง Apollo 13 โดยจุดเริ่มต้นของ Netflix แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมันเริ่มจากการคืนวีดีโอช้า Reed Hastings หนึ่งในผู้ก่อตั้งได้เล่าว่ามีอยู่คืนหนึ่งเขาโดนค่าปรับจากร้านเช่าวีดีโอ Blockbuster เป็นเงินถึง 40 เหรียญสหรัฐคิดเป็นเงินประมาณ 1,400 บาทเลยทีเดียว
การเติบโตที่รวดเร็วของ Netflix ยังได้ส่งผลต่อร้านเช่าแผ่นซีดีวิดิโอที่จะต้องปิดตัวลงอย่างน่าเศร้า เพราะปัจจุบัน Netflix ได้สร้างขึ้นตอบโจทย์ การใช้ชีวิตของคนในยุคใหม่ได้มากกว่า ทั้งการตลาดและระบบหลังบ้าน ทำงานได้ดีในปัจจุบันที่ได้ครองสตรีมมิ่งอันดับหนึ่งแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคู่แข่งหรือที่กำลังเข้ามามีบทบาทอย่างเช่น Disney+, Apple,Viu และอื่นๆที่พยายามจะเข้ามาแทรกแซงเป็นคู่แข่งที่ Netflix ต้องมีการพัฒนาContentและสร้างกระแสอยู่ตลอดเวลา
สำหรับในช่วงปี 2007 ถือว่าเป็นการเปิดโลกใหม่ คนดูหนังออนไลน์เลยทีเดียว จากเดิมที่ดูผ่านแผ่น DVD ก็เปลี่ยนมาดูบนออนไลน์แทน นับตั้งแต่วันนั้น ก็เป็นที่รู้จักดีสำหรับคอหนังและยังเติบโตอย่างต่อเนื่องจนในตอนนี้มีผู้ชมมากกว่า 130 ล้านคน ครอบคลุม 190 ประเทศทั่วโลก โดยสรุปแล้ว Netflix มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการรับชมคอนเทนต์ดิจิทัล ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพ การปรับตัวตามวัฒนธรรม และการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้สามารถยืนหยัดด้วยตัวเอง